วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จัดงานแต่งงานในโรงแรมอย่างไร ถึงจะเป็นมืออาชีพ


จัดงานแต่งงานในโรงแรมอย่างไร ถึงจะเป็นมืออาชีพ

                วิธีเตรียมงานแต่งงานถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคู่บ่าวสาวเพราะจะขาดตกบกพร่องไม่ค่อยจะได้เลยเพราะว่ามีแขกเหรื่อยที่เป็นผู้หลักผู้หญิงกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ ฉะนั้น วิธีเตรียมงานแต่งงาน จึงมีความสำคัญ แต่วันนี้เราขอจัดเต็มในเรื่อง วิธีเตรียมงานแต่งงาน ในโรงแรมให้กับคู่บ่าวสาวอย่างมืออาชีพให้แก่คุณค่ะ มาดูกันซิว่าหากว่าคู่บ่าวสาวคิดที่จะจัดงานแต่งงานที่โรงแรมต้องมีการเตรียมอะไรบ้างเพื่อความรอบคอบรวมถึงการจำกับงบประมาณที่มีอยู่โดยที่ไม่เปิดงบบานปลายค่ะ นั้นเรามาดูคำแนะนำในวิธีเตรียมงานแต่งงานกันเลยดีกว่าค่ะ






วิธีเตรียมงานแต่งงาน ในโรงแรม

1. พูดคุยเบื้องต้น


- เมื่อเลือกโรงแรมที่สนใจจะใช้บริการจัดเลี้ยงได้แล้ว ขั้นตอนแรกคือ การทำนัดเข้าไปพบตัวแทนฝ่ายขายงานจัดเลี้ยงซึ่งโดยทั่วไปแทบทุกโรงแรมจะมีตัวแทนที่ดูแลด้านการจัดเลี้ยงแต่งงานโดยเฉพาะอยู่แล้ว ในการพูดคุยเบื้องต้นสิ่งที่ต้องเตรียมคือคำตอบในใจไปเท่านั้น

- เริ่มจากฤกษ์แต่งงาน แน่นอนว่าทางโรงแรมจะต้องมีคำถามเกี่ยวกับฤกษ์แต่งงานว่า เป็นวันไหนและช่วงไหน ถ้าวันนั้นห้องจัดเลี้ยงยังว่างอยู่แนะนำให้จองสิทธิ์ไว้ก่อนได้เลยเพราะวันดีของเราอาจเป็นวันดีของอีกหลายคู่เช่นกัน

- ประมาณจำนวนแขก ควรบอกจำนวนแขกคร่าวๆ เป็นตัวเลขกว้างๆ กับทางโรงแรมทราบ เพื่อดูว่าทางโรงแรมมีขนาดห้องจัดเลี้ยงที่เหมาะกับจำนวนแขกหรือเปล่า รวมถึงจะเป็นการง่ายต่อโรงแรมในการเสนอหรือแนะนำแพคเกจที่เหมาะสมกับขนาดงานเลี้ยง

- รูปแบบการจัดเลี้ยงที่ต้องการ บอกกับทางโรงแรมถึงรูปแบบการจัดเลี้ยงที่ต้องการ ค็อกเทล บุฟเฟ่ต์ หรือโต๊ะจีน ลองขอดูรูปห้องจัดเลี้ยงและรูปแบบงานเลี้ยงที่ทางโรงแรมเคยจัด รวมถึงขอเดินชมห้องจริงโดยราคาของการจัดเลี้ยงแต่ละแบบจะไม่เท่ากัน การพิจารณาจะขึ้นอยู่กับหลายเรื่องอาทิ จำนวนแขกขนาดของห้องจัดเลี้ยง ความชอบส่วนตัว ความต้องการของผู้ใหญ่ กลุ่มของแขกที่เชิญว่าเป็นแขกผู้ใหญ่หรือเป็นเพื่อนๆ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งสามารถขอรายละเอียดของราคาและรายการอาหารจากทางโรงแรมเพื่อนำกลับมาพิจารณาตัดสินใจที่บ้านได้ เพื่อความรอบคอบที่สำคัญอย่าลืมถามว่า สามารถนำอาหารจากข้างนอกเข้ามาจัดเลี้ยงในงานร่วมด้วยได้หรือไม่ ถ้านำเข้ามาได้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรึเปล่าเผื่อว่าคู่บ่าวสาวอาจต้องการนำร้านอาหารเจ้าโปรดเข้ามาจัดเลี้ยงในงานด้วย

- เครื่องดื่มในงานที่รวมอยู่ในแพคเกจเดียวกับอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำอัดลมหรือที่เรียกว่า Soft Drink ซึ่งจะไม่รวมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เรื่องที่ต้องสอบถามด้วยคือค่าเปิดขวดเมื่อมีการนำเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้าไป




2. พูดคุยในรายละเอียด


- ก่อนวันงานประมาณ 1-2 เดือน ควรเข้าไปคุยรายละเอียดต่างๆ กับตัวแทนฝ่ายขายที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกของงานอีกครั้ง โดยคุยให้ลึกถึงรายละเอียดในจุดต่างๆ มากขึ้น ดังนี้...

- เมนูอาหาร หลังจากที่พิจารณาเลือกรายการอาหารจากข้อมูลที่ขอทางโรงแรมไว้ตั้งแต่วันที่มาพูดคุยครั้งก่อนตอนนี้ต้องแจ้งถึงรายการอาหารที่ตัดสินใจเลือก

- การตกแต่งห้องจัดเลี้ยง ส่วนใหญ่ทางโรงแรมจะมีรูปภาพจากงานที่เคยทำมาก่อนให้ชม คู่บ่าวสาวสามารถเลือกแบบของซุ้มดอกไม้ เลือกชนิดดอกไม้และโทนสีรวมทั้งการโยงผ้า ประดับฟลาวเวอร์บอลเพิ่มในบางจุด การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของฟลาวเวอร์สแตนด์ น้ำแข็งแกะสลัก เพื่อให้เข้า Theme งาน ซึ่งหากต้องปรับหรือเปลี่ยนต้องแจ้งและระบุถึงสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจนทางโรงแรมจะได้ตระเตรียมความพร้อมอย่างไม่ผิดพลาด

- รูปแบบการจัดวางโต๊ะในงานจะมีความสำคัญมาก สำหรับงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์และโต๊ะจีน ปกติแล้วทางโรงแรมจะมีรูปแบบของการจัดวางมาอธิบายว่า โต๊ะจำนวนเท่าไหร่ ตำแหน่งจะจัดวางโต๊ะอย่างไร จัดอาหารไว้ตรงไหน ส่วนงานเลี้ยงสไตล์ค๊อกเทลจะเน้นเรื่องของรูปแบบการจัดวางอาหาร ซุ้มอาหารจะวางมุมไหนให้เหมาะกับจำนวนแขกในงาน รวมถึงซุ้มเค้กหรือหากต้องการให้มีเชมเปญทาวเวอร์หรือฟลอร์เต้นรำจะได้จัดตำแหน่งที่ตั้งให้เหมาะสมด้วย

- เวทีและการตกแต่ง โดยทั่วไปทางโรงแรมจะมีจุดที่สามารถจัดเป็นเวทีในห้องจัดเลี้ยงได้หลายมุม หลังจากเลือกที่เหมาะกับรูปแบบของงานได้แล้วให้เลือกรูปแบบการตกแต่งว่าต้องการมีดอกไม้มากน้อยเพียงใด

- รูปแบบป้ายชื่อคู่บ่าวสาวเป็นแบบไหน หากมีแบบที่ชอบในใจให้บอกกับทางโรงแรมได้เลยจะได้ทราบว่าทางโรงแรมสามารถจัดให้ได้หรือไม่หรือต้องปรับอย่างไร

- รูปแบบเค้กแต่งงาน ระบุให้ละเอียดว่าอยากได้เค้กชั้นทรงอเมริกันหรือแบบแยกชิ้นวางบนฐาน ต้องการเค้กกี่ชั้น ต้องการให้เป็นเนื้อเค้กจริงกี่ชั้น และต้องการรายละเอียดบนตัวเค้กแบบไหนสีอะไร ส่วนใหญ่หากเลือกเป็นแพคเกจจัดเลี้ยง ทางโรงแรมจะมีแบบให้เลือกอยู่แล้ว แต่หากมีแบบในใจที่อยากได้จะต้องบอกรายละเอียดให้ชัดเจน

- ป้ายชื่อตั้งบนโต๊ะ หากต้องมีสามารถขอให้ทางโรงแรมช่วยจัดทำให้ โดยต้องให้รายชื่อให้กับทางโรงแรมเพื่อจัดเตรียมของแถมอื่น ๆ จากทางโรงแรม เช่น สมุดประสาทพร และกล่องรับซอง ส่วนใหญ่โรงแรมจะมีแบบสำเร็จรูปอยู่แล้ว หากต้องการที่จะตกแต่งเพิ่มเติมให้ขอรับจากทางโรงแรมมาตกแต่งก่อนได้

- ส่วนช่อดอกไม้ติดหน้าอกและมาลัยบ่าวสาว ทางโรงแรมจะมีแบบให้เลือกว่าอยากได้แบบไหน เป็นสีอะไร จำนวนเท่าไหร่

- แสง สี เสียงในงาน สอบถามให้เข้าใจว่าระบบแสง สี เสียง ในห้องจัดเลี้ยงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นำมาวางแผนจังหวะการเปิดไฟ หรี่ไฟ ควบคุมเสียงการเปิดเพลง เปิดพรีเซนเทชั่นในแต่ละช่วงเวลาของงานเลี้ยงได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งสอบถามว่าทางโรงแรมมีอุปกรณ์อะไรให้บ้างและมีจำนวนเท่าใด เช่น เครื่องฉายพรีเซนต์เทชั่น เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค จอฉายพรีเซเทชั่น ไมค์โครโฟน

- องค์ประกอบเสริมอื่น ๆ หากคู่บ่าวสาวมีเดียวเสริม ต้องการนำอุปกรณ์อื่น ๆ เข้ามาติดตั้ง ต้องบอกทางโรงแรมไว้ล่วงหน้าว่าจะนำอะไรเข้าไปและตั้งไว้ตรงไหนบ้าง เช่น มิลเลอร์บอล ไฟหยดน้ำ หรือจะเป็นเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์ เบียร์ หรือของชำร่วย ที่จะนำไปฝากไว้ที่โรงแรมล่วงหน้า

- ลำดับขั้นตอนในงาน ทำสำเนาลำดับขั้นตอนพิธีการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงานมอบให้ทางโรงแรมอย่างน้อย 1 ชุด มอบให้ในวันพูดคุยรายละเอียดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมช่วยประสานงานให้ แต่ถ้ายังไม่มีสามารถขอให้ทางโรงแรมช่วยทำสคริปต์ลำดับขั้นตอนให้ได้เช่นกัน

- ค่าใช้จ่ายและการชำระเงิน เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องคุยให้ชัดเจนทั้งส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดเลี้ยงที่เป็นราคาต่อหัวต่อท่าน จำนวนแขกขั้นต่ำที่ตกลงกับทางโรงแรมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าดอกไม้พิเศษที่ขอให้จัดเพิ่ม ค่าเปิดขวด ค่าตกแต่งงานเพิ่มในบางจุด โดยปกติโรงแรมจะทำสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกมา และขอให้วางมัดจำเพื่อเป็นการยืนยันการจัดงาน จากนั้นต้องสอบถามถึงการชำระเงินหลังเลิกงานเพราะบางโรงแรมอาจต้องการให้ทำเป็นแคชเชียร์เช็คไปให้เอกสารยืนยันการจัดงานก่อนการวางมัดจำยืนยันการจัดงาน ควรให้โรงแรมช่วยแนบเอกสารยืนยันรายละเอียดการจัดงานทั้งหมดมาให้ตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งด้านราคา รายการอาหาร และรายละเอียดอื่นๆ ทั้งหมดที่ได้พูดคุยกันหลังจากเซ็นต์รับทราบในเอกสารบ้างเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน

วิธี เติมรักให้หวาน เติมสุขให้ชีวิต


วิธี เติมความรักให้หวาน เติมสุขให้ชีวิต

          ใบสมรสอาจถูกหลายคนมองว่าเป็นแค่กระดาษ แต่จริง ๆ เปรียบเสมือนคำมั่นสัญญาของเราสองก็ว่าได้แต่เหนือกว่าใบสมรสสิ่งที่คู่สามีภรรยาต้องการนั้นเห็นที่จะเป็นรักหวานที่มีให้กันตลอดไปที่ไม่มีวันหมดสิ้นจนแก่เฒ่า


 

วิธี รักหวาน เติมสุข


การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ยังต้องมีการปรับตัวซึ่งกันและกันอยู่เสมอซึ่งคนไทยมีจุดอ่อน คือ สื่อสารกันไม่เป็นทั้งเรื่องคำพูดและการกระทำ เมื่อเป็น สามี ภรรยา กันต้องรู้จักกอด หอมแก้ม จับมือ บอกรักบ้างอย่าให้ขาดหาย ซึ่งการกอดเป็นการสื่อสารรักอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยประคับประคองความรักได้ โดยในทางจิตวิทยาผู้หญิงจะโหยหาการสัมผัสมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น ฝ่ายชายควรแสดงความรักให้ฝ่ายหญิงด้วยการกอด จับมือ ไม่ต้องกลัวเขินอาย ส่วนคำพูดมีส่วนสำคัญในการสร้างความรัก ความเข้าใจ ให้คุยด้วยภาษาที่ไพเราะ เช่น คำว่า ที่รัก ดาร์ลิ้ง และลงท้ายด้วยจ๊ะ..จ๋า

นอกจากนี้ เมื่อโกรธหรือทะเลาะกันจิตแพทย์แนะนำว่า อย่าเพิ่งคุยกันเพราะจะกลายเป็นการพูดด้วยอารมณ์ ให้ระงับอารมณ์โกรธก่อนเพื่อที่จะได้คุยกันด้วยเหตุผล เมื่ออารมณ์ดีขึ้นให้พูดในสิ่งที่อีกฝ่ายทำโดยไม่ตัดสินว่าอีกฝ่าย ถูก ผิด ดี เลว ให้พูดในสิ่งที่อยากให้เขาเปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญอย่าคาดหวังให้อีกฝ่ายเป็นหรือทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการแต่อาศัยวิธี"การปรับตัวเข้าหากัน" ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นไปตามต้องการของอีกฝ่ายและปรับตัวให้ยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น หรืออยู่กับเขาอย่างไม่ต้องเป็นทุกข์เพราะนิสัยบางอย่างไม่สามารถปรับกันได้จึงอย่าคาดหวังให้มองในส่วนที่ดีซึ่งกันและกัน

นพ.สุกมล บอกอีกว่า สามี ภรรยา ต้องรู้จักชื่นชมซึ่งกันและกัน เช่น เมื่อภรรยาถามว่า ฉันทำอาหารอร่อยไหม อย่าตอบว่า ไม่ได้เรื่อง หรือไม่อร่อย ให้ตอบว่า อร่อยดี แต่เพิ่มรสชาติหวาน เค็มหน่อยน่าจะดี เรื่องเซ็กส์มีส่วนสำคัญในชีวิตคู่เช่นกัน ผู้ชายมักอยากมีเซ็กส์มากกว่าผู้หญิง ดังนั้น เพื่อป้องกันสามีออกไปเที่ยวนอกบ้านบางครั้งภรรยาต้องพูดหวาน ๆ เปิดเพลงเบา ๆ ในห้องนอนมีแอร์เย็น ๆ เพิ่มกลิ่นหอมด้วยอโรมาเพื่อให้สามีผ่อนคลาย และอย่าเอาปัญหานอกบ้านมาทำให้เครียด ควรผ่อนคลาย ดูแลจิตใจซึ่งกันและกัน หาเวลาพักผ่อนอย่าไปคำนึงวัตถุเงินทองมากเกินไป ความสุขในชีวิตคู่จะมาเยือนหากเข้าใจซึ่งกันและกัน

จัด"วิวาห์" สุดเลิศด้วยคุณเอง


จัด"งานวิวาห์" สุดเลิศด้วยคุณเอง

     วันแต่งงานหรือ วันวิวาห์ จัดได้ว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดสำหรับ คู่บ่าวสาว แต่คู่บางคู่ก็อยากได้งานแต่งที่ไม่เหมือนใครแต่ไม่มีเวลาจัดเตรียมงานเอง คุณอาจต้องจ้างออแกไนซ์งานแต่งงานแบบมืออาชีพมาช่วยครีเอทงานแต่งงานงานนี้แล้วล่ะค่ะ แต่อย่าลืมปรึกษาเงินในกระเป๋าของคุณทั้งสองฝ่ายด้วยนะ หรือหากว่าคุณอยากมีส่วนร่วมในงาน วิวาห์ ของคุณเองลองฟังวิธีต่อไปนี้



เลือกสถานที่สุดเก๋

การเลือกสถานที่จัดงานเก๋ ๆ ถือเป็นวิธีการที่ ง่ายที่สุดในการสร้างความประทับใจเพราะถ้างานเลี้ยงถูกรายล้อมด้วยความงดงามทางธรรมชาติของสถานที่ที่คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา ริมแม่น้ำ สนามหญ้ากลางสวน รวมถึงร้านอาหารที่มีบรรยากาศสวย ๆ ถือได้ว่าคุณนั้นมีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง การตกแต่งก็ไม่ต้องมากต้องมายอาศัยความงดงามของสถานที่ก็ดูเดิ้นได้ไม่ยากเลย

ถ้าคุณเลือกจัดงานเลี้ยงในสถานที่ที่ไกลออกไปมีข้อคิดอยู่นิดว่า คุณควรเลือกรีสอร์ทที่มีอุปกรณ์ในการจัดงานค่อนข้างพร้อมพรั่งอยู่ชักหน่อย เพราะจะช่วยลดปัญหาในเรื่องของการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับงานเลี้ยงได้เป็นอย่างดีและลดความยุ่งยากในการเตรียมห้องพักสำหรับแขกที่มาร่วมงาน แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ไหนเล็งสนามหญ้าโล่ง ๆ ในสวนที่อยู่ใกล้บ้านก่อนจะเอ่ยปากขอยืมถ้าเจ้าของสถานที่ที่คุณรู้จักคุ้นเคยกันดีหรือขอเช่าสถานที่คุณจะต้องมั่นใจด้วยว่า สถานที่นั้นพอที่จะรองรับจำนวนแขกที่คุณเชิญมาร่วมงานได้มีที่จอดรถที่พอเพียงและมีระบบจัดการเรื่องการจอดรถที่ดี

นอกจากนี้การจัดเลี้ยงสไตล์กลางแจ้งยังมีข้อคิดว่า ต้องดูจังหวะช่วงเวลาการจัดงานให้ดีในฤดูหนาวน่าจะเหมาะสมที่สุด อย่าลืมหาทางป้องกันเหล่าแมลงจำพวกยุงและมดที่อาจสร้างปัญหาให้กับบรรดาแขกเหรื่อ ต้องมีบริเวณสำหรับเตรียมอาหารมีการจัดเตรียมเรื่องไฟฟ้าแสงสว่างและพัดลมไอน้ำในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าอากาศจะเย็นสบายพอ อย่างไรก็ตามการเลือกจัดงานสไตล์กลางแจ้งจะต้องมีงบประมาณที่มากพอและต้องใช้เวลาวางแผนงานยาวนาน เพราะมีรายละเอียดที่ต้องคำนึงถึงมากมายลองหันมามองสถานที่ใหม่ ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของคุณอย่างร้านอาหารบรรยากาศเดิ้น ๆ โรงละคร โรงภาพยนตร์ หรือห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมที่สามารถปรับแต่งได้ก็จะสามารถจัดทำให้ดูเดิ้นได้ไม่แพ้กัน




จัดอาหารให้ตื่นตา

เพราะอาหารคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่สำคัญในงานเลี้ยงซึ่งสามารถนำมาเป็นเครื่องมือในการสร้างสีสันให้กับงานเลี้ยงได้อย่างไม่ยากเย็นและมีหลากหลายแนวทาง


โชว์การปรุงอาหาร

เราสามารถสร้างความสนุกสนานจากการทำอาหารแบบโชว์ลีลาการปรุง วิธีนี้ต้องจัดเตรียมตั้งแต่ที่ตั้งของซุ้มให้โดดเด่นเปิดโล่งและไม่มีอะไรมาบดบังสายตาของแขกที่จะได้เห็นกันเต็มที่ อย่างการจัดให้มีบาร์เปิดโชว์การผสมเครื่องดื่มด้วยลีลาสนุกเร้าใจขอบาร์เทนเตอร์คนเก่ง หรือจัดให้มีการทำพิชซ่าที่โชว์ลีลาหมุนแผ่นแป้งบนปลายนิ้วก่อนส่งเข้าเตาอบแบบนี้เรียกร้องความน่าสนใจจากแขกทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ได้ไม่น้อยทีเดียว

ตกแต่งงานเลี้ยงด้วยอาหาร

อาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงามนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับรับประทานเพียงอย่างเดียวแต่ยังนำมาตกแต่งงานสร้างความโดดเด่นให้กับงานเลี้ยงได้ด้วย อย่างการจัดเคาน์เตอร์อาหารญี่ปุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษให้แขกได้รับประทานกันอย่างจุใจ หรือการนำเค้กแต่งงานหรือคัพเค้กที่ออกแบบอย่างเก๋ไก๋แต่งซุ้มสวย ๆ ด้วยดอกไม้สดประดับประดาแต่ละชั้นเค้กด้วยไอเดียสร้างสรรค์มาวางเป็นจุดเด่นกลางงานแต่ง หรือจะจัดให้มีน้ำพุช็อกโกแลตขนาดใหญ่ใส่ลูกเล่นในสีของช็อกโกแลตสำหรับดิปกับขนมปังกรอบและผลไม้หลากชนิดที่คุณจัดมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสียบไม้น่ามาตั้งเป็นจุดสนใจไว้ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย




เลือกเมนูอาหารที่มีความหมาย

อาหารที่สื่อนัยหรือสัญลักษณ์บ่งบอกถึงสิ่งพิเศษที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเคยมีร่วมกัน สามารถนำมาสร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับงานวิวาห์ได้เช่นกัน เช่น อาหารที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบกันครั้งแรก ถ้าเป็นที่อิตาลีคุณอาจจะจัดซุ้มพาสต้าไว้มุมหนึ่งของงานมีเส้นพาสต้าสารพัดแบบให้แขกได้เลือกสั่งปรุงสดตรงนั้น หรือการจัดซุ้มอาหารญี่ปุ่นไว้ เพราะเป็นร้านที่คู่บ่าวสาวไปเดทกันครั้งแรก โดยในงานสามารถมีซุ้มอาหารที่มีความหมายกับคู่บ่าวสาวได้มากกว่าหนึ่งซุ้ม ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน แต่อย่าลืมให้พิธีกรบนเวทีบอกกับแขกทุกคนถึงความหมายของอาหารที่นำมาเสิร์ฟในครั้งนี้

เมนูจานเด็ดจากร้านดัง

ถือเป็นความสนุกสนานของทั้งคุณและแขกที่มาร่วมงานที่จะได้มีโอกาสลิ้มลองความอร่อยจากร้านเจ้าเด็ดเจ้าดัง โดยไม่ต้องไปต่อแถวแย่งซื้อที่หน้าร้าน เพราะคุณได้ยกร้านอาหารร้านนั้นมาจัดเลี้ยงแขกของคุณโดยเฉพาะอย่าง หอยทอดผัดไทยร้านสวัสดีที่ไปสั่งทานทีไรก็มักจะเจอออเดอร์ยาวเหยียด ข้าวขาหมูตรอกชุงเจ้าอร่อย แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวแคะไปรษณีย์กลางที่เอ่ยถึงแล้วใคร ๆ ก็ต้องร้อง...อ๋อ หรือหมูสะเต๊ะท่าดินแดงที่หลายคนไปไม่เคยทันเพราะขายดีอย่าบอกใคร มาจัดเป็นซุ้มพิเศษสวยงามเสิร์ฟในงานวิวาห์ด้วย แม้ประเภทของอาหารจะดูธรรมดาแต่เพราะชื่อเสียงและรสชาติของร้านที่จะทำให้ความธรรมดาของอาหารเหล่านี้กลายมาเป็นสิ่งที่แปลกใหม่น่าสนใจกว่าอาหารเมนูทั่วไปแน่นอน

มีข้อคิดอยู่นิดว่า การนำอาหารซุ้มพิเศษเข้าไปร่วมจัดเลี้ยงในงานแต่งงาน หากเป็นการจัดเลี้ยงในโรงแรม ต้องถามทางโรงแรมก่อนว่าคุณสามารถนำอาหารเมนูพิเศษเข้ามาร่วมได้หรือไม่ เพราะบางแห่งอาจจะมีเงื่อนไขในการนำอาหารจากภายนอกเข้ามาหรืออาจจะไม่อนุญาตให้นำเข้ามาเลยก็ได้ ดังนั้น คุณอาจจะเลือกตกแต่งงานเลี้ยงแทนการจัดซุ้มอาหารที่มีข้อห้ามจากเจ้าของสถานที่